วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีีเอาชนะความกลัว ตอน 2

ตอนที่แล้วพูดถึงเรื่องวิธีการเอาชนะความกลัววิธีแรก
ซึ่งถ้าเปรียบเป็นลำดับขั้น ก็เหมือนเป็นระดับอนุบาล
คือเด็กๆก็ทำได้ แค่สร้างความเชื่อ หรือศรัทธาให้เกิดขึ้น

วิธีที่สอง คือการส่งใจไปที่อื่นเสีย หรือการผูกมัดกับสิ่งอื่น
วิธีนี้ เพิ่มระดับความยากขึ้นมาอีกนิด
เพราะอยู่ในชั้นที่จัดเป็นกุศโลบาย 
เหมือนเราเป็นแม่ทัพ ต้องวางแผนการรบเพื่อไปต่อสู้กับศัตรู
แต่ศัตรูในที่นี้ คือตัวเราเอง
หรือก็คือใจที่กำลัวกลัวของเราเอง 
 โดยการส่งความนึกคิดของใจไปอยู่ที่อื่นเสีย

เอาตัวอย่างง่ายๆจากในหนัง เรื่อง Harry Potter 
จากหนังเราได้รู้ว่า Harry ตัวเอกของเรื่อง รอดตายมาได้ 
เพราะแม่ของเขาปกป้องโดยเอาชีวิตเข้าแลก
แม่เขา Harry ไม่กลัวตายหรือ ก็เปล่า
แต่เพราะ ณ ตอนนั้น ใจของเธอมุ่งไปที่ลูก
ห่วงลูก รักลูก จึงลืมกลัว 
ลืมกลัวทุกอย่าง แม้กระทั่งความตาย ขอเพียงได้ปกป้อง ลูกอันเป็นที่รัก

ในพระพุทธศาสนา
 
การนั่งสมาธิ ก็จัดอยู่ในวิธีนี้เช่นกัน
อาการที่สงบใจไว้ด้วยสมาธินั้น เป็นอุบายข่มความกลัว ได้สนิทแท้
เพราะว่า ในขณะแห่งสมาธิ ใจไม่มีการคิดนึก อันใดเลย
นอกจากจับอยู่ที่สิ่งซึ่งผู้นั้น ถือเอาเป็นอารมณ์ หรือนิมิต
ที่เกาะของจิตอยู่ในภายในเท่านั้น 

 
พระผู้มีพระภาคทรงสอนให้ระลึกถึงพระองค์
หรือพระธรรม หรือพระสงฆ์ อย่างใดอย่างหนึ่ง
ในเมื่อภิกษุใดเกิดความกลัวขึ้นมา ในขณะที่ตนอยู่ในที่เงียบสงัด
เช่นในป่าหรือถ้ำ เป็นต้น
  
ซึ่งการที่พระองค์สอนให้ระลึกถึงพระองค์
หรือพระธรรม พระสงฆ์ ตามนัยแห่งบาลี ธชัคคสูตรนั้น ก็หมายถึง
พุทธานุสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ อยู่แล้ว
แม้ว่าจะเป็นเพียง อุปจารสมาธิ ยังไม่ถึงขึดฌาณก็ตาม
ล้วนแต่ต้องการความชำนาญ
จึงอาจเปลี่ยนอารมณ์ที่กลัวให้เป็นพุทธานุสสติ เป็นต้นได้ 

แต่ว่าใจที่ เต็มไป ด้วยความกลัว ยากที่จะเป็นสมาธิ
เพราะฉะนั้น ต้องเป็นสมาธิ ที่ชำนาญ อย่างยิ่งจริงๆ
จนเกือบกลายเป็นความจำอันหนึ่งไป พอระลึกเมื่อใด
นิมิตนั้นมาปรากฏเด่นอยู่ที่ "ดวงตาภายใน" ได้ทันที
นั่นแหละ จึงจะเป็นผล 
 
สมาธิ ที่เป็นได้ถึงฌาณ เช่น พรหมวิหาร เป็นต้น
เมื่อชำนาญแล้ว สามารถที่จะข่มความกลัว ได้เด็ดขาดจริงๆ
ยิ่งโดยเฉพาะ เมตตา พรหมวิหาร ยิ่งเป็นไปได้ง่ายที่สุด 

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เป็นเพียงการข่มเอาไว้เท่านั้น
เชื้อของความกลัวยังไม่ถูกรื้อถอนออก
เมื่อหยุดข่มเมื่อใด ความกลัวก็เกิดขึ้นตามเดิม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ไม่ได้ฝึกสมาธิจนชำนาญ
ก็ไม่สามารถสามารถข่มความกลัวได้อย่างเต็มที่
ถ้าสมาธิไม่แรงกล้าเท่า อาการกลัว

พรุ่งนี้จะต่อวิธีสุดท้าย
ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเป็นขั้นสูง แต่น่าประหลาดที่ว่า
เป็นวิธีที่อาจเหมาะกับเราๆท่านๆ ที่เป็นคนธรรมดา
และยังได้ผลดีกว่าด้วย

^______^
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น